นโยบายความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ

บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน)


1.ขอบเขตและวัตถุประสงค์

บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ถือปฎิบัติอย่างเคร่งครัดในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เป็นไป พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม บันทึก ยึดถือ เก็บรักษา เปิดเผย โอน หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่จะกำหนดไว้ในนโยบายนี้และตามที่กฎหมายกำหนดไว้เเท่านั้น

ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านในระยะเวลาเพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำหรือในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บข้อมูลนั้น ๆ จนกว่าท่านจะถอนความยินยอม

 

2.คำจำกัดความ

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีการติดต่อ หรือทำธุรกรรมต่างๆ กับบริษัท เช่น ลูกค้า สมาชิก คู่ค้า พันธมิตร เจ้าหนี้ ลูกหนี้ เป็นต้น 

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนดซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต ทั้งนี้ บริษัทอาจต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลข้อมูลชีวภาพ (Biometric) เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการที่ขอสมัคร และ/หรือทำธุรกรรมผ่านช่องทางต่างๆ

“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การดำเนินการใดๆของบริษัทต่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึง การเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และการลบข้อมูลส่วนบุคคล

 

3.การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาหรือการให้บริการตามที่ท่านได้ทำธุรกรรมไว้กับบริษัท เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือ ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ โดยข้อมูลที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของ ดังต่อไปนี้

ท่านสามารถจัดส่งข้อมูลให้แก่บริษัท ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของบริษัท หรือจัดส่งเข้าสู่แพลตฟอร์มเท่านั้น และข้อมูลดังกล่าวจะต้องเป็นข้อมูลที่ ถูกต้องแท้จริง ครบถ้วน และไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดใด ๆ โดยท่านจะต้องดำเนินการปรับปรุงข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และแจ้งให้บริษัททราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่าง ๆ (รายละเอียดตามที่จะได้กล่าวข้างล่าง) บริษัทสงวนสิทธิที่จะร้องขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าข้อมูลที่ท่านให้มานั้นถูกต้อง

บริษัทจะสามารถจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากท่านส่งมอบข้อมูลให้บริษัทด้วยความสมัครใจของท่านเท่านั้น หากท่านเลือกจะไม่ส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทหรือเลือกที่จะเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการของบริษัทแก่ท่านได้ ท่านอาจจะต้องเข้าถึงและปรับเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านได้ส่งมอบให้บริษัทได้ตลอดเวลาตามที่ได้กำหนดไว้ด้านล่างนี้

หากท่านสมัครเพื่อใช้งาน FN Outlet โดยผ่านทางบัญชีโซเชียลมิเดีย (Social Media) หรือเชื่อมต่อบัญชี FN Outlet กับบัญชีโซเชียลมิเดียของท่าน หรือใช้โซเชียลมิเดียอื่น ๆ ของบริษัท บริษัทอาจเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับท่านที่ท่านได้ให้ไว้โดยสมัครใจกับบัญชีโซเชียลมิเดียของท่านผ่านทางผู้ให้บริการโซเชียลมิเดียรายนั้น ๆ ภายใต้นโยบายต่าง ๆ ของผู้ให้บริการ บริษัทจะจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับมาดังกล่าวตามนโยบายความเป็นส่วนบุคคลของบริษัท

 

4.การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนที่บริษัทได้รับจากท่านหรือส่งต่อแก่บุคคลภายนอก (รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการภายนอก ผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอก) เพื่อประโยชน์ของกิจการทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเฉพาะกรณีที่จำเป็น หรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ดังจะได้กล่าวต่อไปนี้

เมื่อท่านได้สมัครเพื่อเปิดบัญชีการใช้บริการกับ บริษัท หรือได้ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทางแพลตฟอร์ม ท่านยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อส่งข่าวสารทางการตลาดและโปรโมชั่นต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของบริษัทหรือของผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอกเป็นครั้งคราว ท่านสามารถยกเลิกการรับข้อมูลการตลาดได้ตลอดเวลา โดยการใช้ระบบการยกเลิกการรับข้อมูลที่อยู่ในข้อมูลทางการตลาดที่จัดส่งให้ บริษัทอาจใช้ข้อมูลการติดต่อของท่านเพื่อส่งเอกสารข่าวสารจากบริษัทหรือจากบริษัทที่เกี่ยวข้องของบริษัท และในกรณีที่เป็นข้อยกเว้นและบริษัทถูกขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่นในกรณีที่มีมูลให้เชื่อว่าการเปิดเผยดังกล่าวอาจป้องกันการข่มขู่ต่อชีวิตหรือร่างกาย สำหรับวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับหรือการร้องขออื่นใด

บริษัทอาจส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกหรือบริษัทในเครือของบริษัทสำหรับวัตถุประสงค์ดังกล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ กับท่านให้สำเร็จ จัดการบัญชีการใช้บริการของท่าน จัดการความสัมพันธ์อื่น ๆ กับท่าน การตลาด การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ การร้องขออื่นๆ ที่ บริษัท เห็นว่าจำเป็น ในการแบ่งปันข้อมูลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัท จะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อรับรองว่าบุคคลภายนอกและบริษัทในเครือของบริษัทจะรักษาและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการเข้าถึง การจัดเก็บ การใช้ การเปิดเผย โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือความเสี่ยงอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน และจะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับกิจการที่ได้กล่าวไว้ด้านบนนี้เท่านั้น

บริษัท ขอยืนยันว่าไม่เคยและไม่ได้ทำธุรกิจในการค้าข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแก่บุคคลภายนอก

 

5.การเพิกถอนความยินยอม

ท่านอาจส่งคำคัดค้านหรือการเพิกถอนการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับกิจการต่าง ๆ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ด้านบน แก่บริษัทได้ตลอดเวลา โดยติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางท้ายนโยบายฉบับนี้ โปรดทราบว่าหากท่านได้ส่งคำคัดค้านการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับกิจการต่าง ๆ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ด้านบน ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ของคำคัดค้าน บริษัทอาจไม่อยู่ในสถานะที่จะจัดส่งสินค้าหรือบริการให้แก่ท่านหรือปฏิบัติตามสัญญาต่อท่านได้ บริษัทขอสงวนสิทธิทางกฎหมายและการเยียวยาไว้โดยชัดแจ้งในกรณีซึ่งบริษัทไม่สามารถจัดส่งสินค้าหรือบริการให้แก่ท่านหรือตามปฏิบัติตามสัญญาต่อท่านได้อันเกิดจากคำคัดค้านดังกล่าว

 

6.การปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านสามารถปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลาโดยการเข้าสู่บัญชีการใช้บริการของท่านบนแพลตฟอร์มของ บริษัท หากท่านไม่มีบัญชีการใช้บริการกับบริษัทท่านอาจทำการปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยการติดต่อบริษัทตามช่องทางท้ายนโยบายฉบับนี้

บริษัทจะดำเนินการส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการปรับเปลี่ยนแล้วแก่บุคคลภายนอกหรือบริษัทในเครือที่บริษัทได้แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านยังคงจำเป็นต่อกิจการที่กล่าวไว้ข้างต้น

 

7.การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

หากท่านต้องการที่จะเข้าดูข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีอยู่เกี่ยวกับท่าน หรือต้องการทราบเกี่ยวกับการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท กรุณาติดต่อบริษัทผ่านทางช่องทางตามท้ายนโยบายฉบับนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการคิดค่าธรรมเนียมการจัดการที่สมเหตุสมผล ในการเรียกดูบันทึกข้อมูลดังกล่าว

หากท่านมีบัญชีการใช้บริการกับ บริษัท ท่านอาจเข้าดูรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งสินค้าของท่าน โดยการเข้าสู่ระบบบัญชีการใช้บริการของท่านบนแพลตฟอร์ม ในนั้นท่านจะสามารถเรียกดูรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งสินค้าที่สมบูรณ์แล้วหรือที่ยังคงค้างอยู่ หรือที่จะได้ส่งสินค้าให้ท่านในเวลาอันสั้น และสามารถจัดการข้อมูลที่อยู่การส่งสินค้า หรือการส่งข่าวสารที่ท่านได้สมัครไว้ได้ ท่านตกลงที่จะจัดการชื่อบัญชี รหัสผ่าน และรายละเอียดการสั่งสินค้าเป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยต่อบุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต บริษัทไม่สามารถรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากการใช้ชื่อบัญชี รหัสผ่าน และรายละเอียดการสั่งสินค้าในทางที่ผิด เว้นแต่จะได้ระบุไว้ในข้อตกลงการใช้บริการ

 

8.ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทรับรองว่าบริษัทมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัทและการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล โดยบริษัทกำหนดให้บุคลากรของบริษัทและผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดย

หากท่านมีเหตุให้เชื่อว่าความเป็นส่วนบุคคลของท่านได้ถูกละเมิดโดย บริษัท กรุณาติดต่อบริษัทผ่านทางช่องทางตามท้ายนโยบายฉบับนี้

รหัสผ่านของท่านเป็นกุญแจสำหรับบัญชีการใช้บริการของท่าน กรุณาใช้ตัวเลข ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน และไม่แบ่งปันรหัสผ่าน บริษัท แก่ผู้อื่น หากท่านได้แบ่งปันรหัสผ่านแก่ผู้อื่น ท่านจะรับผิดชอบต่อการกระทำต่าง ๆ ที่ได้กระทำลงในนามหรือผ่านทางบัญชีการใช้บริการของท่านและผลที่ตามมา หากท่านไม่สามารถควบคุมรหัสผ่านของท่านได้ ท่านอาจไม่สามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่ส่งให้แก่ บริษัท ท่านอาจต้องยอมรับนิติกรรมใด ๆ ที่ทำลงในนามของท่าน ดังนั้นหากรหัสผ่านของท่านถูกเปิดเผยหรือไม่เป็นความลับอีกต่อไปไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ หรือท่านมีเหตุที่อาจเชื่อได้ว่ารหัสผ่านนั้นถูกเปิดเผยหรือไม่เป็นความลับอีกต่อไป ท่านควรที่จะติดต่อบริษัทและเปลี่ยนรหัสผ่านของท่าน บริษัทขอเตือนให้ท่านออกจากระบบบัญชีการใช้บริการ (log off) และปิดบราวเซอร์ (Browser) ทุกครั้งที่ท่านใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ

 

9.ผู้เยาว์

กรณีท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่ พ.ร.บ..คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม) ดังนั้นในการทำธุรกรรมหรือให้ข้อมูลตามนโยบายนี้บริษัทจะถือว่าท่านได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ ดังกล่าวแล้ว 

 

10.การใช้โปรแกรม

บริษัทหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตอาจจะใช้ โปรแกรม คุกกี้ (Cookies) หรือโปรแกรมอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันเพื่อจัดเก็บข้อมูล เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเพื่อความเป็นส่วนบุคคลของท่าน เมื่อท่านใช้บริการ และ/หรือเข้าสู่แพลตฟอร์ม

เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชม บริษัท เซิร์ฟเวอร์ (Servers) ของบริษัทบริษัททำการจดจำและบันทึกข้อมูลที่บราวเซอร์ของท่านส่งเข้ามาโดยอัตโนมัติเมื่อท่านเข้าเว็ปไซต์ของบริษัท ข้อมูลเหล่านี้อาจหมายรวมถึง

ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ จะถูกจัดเก็บเพื่อการวิเคราะห์และประเมินเพื่อช่วยให้บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์ม การบริการและสินค้าที่บริษัทจัดหาให้ดีขึ้น

โปรแกรมคุกกี้ (Cookies) เป็นข้อมูลไฟล์ตัวอักษรขนาดเล็ก (โดยปกติจะมีเพียงตัวอักษรและตัวเลข) ที่จัดวางไว้บนหน่วยความจำของบราวเซอร์ของท่านหรือบนอุปกรณ์ของท่านเมื่อท่านเข้าชมเว็ปไซต์หรือเรียกดูข้อความ โปรแกรมนี้ช่วยให้บริษัทจดจำอุปกรณ์หรือบราวเซอร์โดยจำเพาะได้ และช่วยให้บริษัทสามารถจัดทำเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ต่อท่านมากขึ้น

ทั้งนี้บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท รวมถึงการใช้เว็บไซต์ การทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันของบริษัท

การเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถจดจำท่าน ทราบถึงความชื่นชอบของท่าน และปรับปรุงวิธีการที่บริษัทจะเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการให้แก่ท่าน บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ (เช่น ให้ฟังก์ชันพื้นฐานสามารถทำงานได้ ช่วยให้บริษัทเข้าใจวิธีการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทหรืออีเมล ช่วยให้บริษัทสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับท่านได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าสื่อโฆษณาออนไลน์ที่ได้แสดงแก่ท่านมีความเกี่ยวข้องและเป็นสิ่งที่ท่านสนใจยิ่งขึ้น)

 

11. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

ตามหลักการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็น ระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลตามกฎหมาย ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะถูกเก็บรวบรวมไว้ตลอดระยะเวลาที่เป็นคู่สัญญา หรือผู้ทำธุรกรรมกับบริษัท และอีกไม่เกิน 5 ปีนับจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลาการเป็นคู่สัญญาหรือผู้ทำธุรกรรมหรือตามที่กฎหมายกำหนด

 

12. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พ.ร.บ.. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้

 

13. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

หากบริษัทจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ในกรณีนี้บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ หรือผู้รับข้อมูลของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้

 

14. วิธีการติดต่อบริษัท

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์จะใช้สิทธิ หรือถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท สามารถติดต่อได้ที่ : 

สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 991 อาคารเอฟเอ็น บิวดิ้ง ถนนพระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250

โทรศัพท์ : 02-300-4951 

Website : www.fnoutlet.com

Application : FN Outlet

 

15. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท www.fnoutlet.com

 นโยบายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากการมีผลใช้บังคับในส่วนของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เลื่อนการมีผลใช้บังคับออกไป ประกาศฉบับนี้จะเลื่อนการมีผลใช้บังคับเป็นวันเดียวกับวันที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ด้วย


ข้อตกลงและเงื่อนไขการเปลี่ยน / คืนสินค้า ช่องทางออนไลน์

บริษัทฯ ยินดีรับเปลี่ยน / คืนสินค้า ภายใน 7 วัน หลังจากได้รับสินค้า โดยสินค้าและบรรจุภัณฑ์ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดด้านล่าง มิฉะนั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าในทุกกรณี

หมายเหตุ : กรุณาถ่ายคลิปขณะแกะสินค้าเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมสินค้า กรณีสินค้าไม่ครบหรือเสียหาย หากไม่มีคลิปยืนยัน ทางร้านขอสงวนสิทธิ์
ในการเปลี่ยนสินค้าหรือคืนเงินทุกกรณี

ขั้นตอนการเปลี่ยน / คืนสินค้า

  1. แจ้งปัญหาสินค้าและความต้องการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า กับพนักงานลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทฯ ทาง FB/ Line FN Official Support หรือคลิกที่นี่ https://lin.ee/kUuVSkB

    โดยระบุรายละเอียด ดังนี้
    – เลขที่คำสั่งซื้อ
    – รายละเอียดปัญหาที่พบ
    – ถ่ายภาพสินค้า และกล่องพัสดุ
    – ถ่ายภาพเอกสาร

  2. รอรับการยืนยัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับทางช่องทาง FB/LINE: FN Outlet เพื่อยืนยันความต้องการในการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า
  3. เจ้าหน้าที่จะทำการส่งหมายเลข Tracking สำหรับจัดส่งสินค้าคืนให้ทางลูกค้า
  4. ลูกค้าทำการสั่งพิมพ์และแปะบนกล่องหรือซองพัสดุ หรือเขียนหมายเลข Tracking ระบุไว้บนหน้ากล่อง
  5. กรุณาจัดเตรียมสินค้า พร้อมกล่องสินค้า, ใบรับประกันและเอกสาร, อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ได้รับ รวมถึงของแถมตามโปรโมชั่น ตลอดจนใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี โดยจะมีเจ้าหน้าที่เข้ารับพัสดุภายในวัน
  6. หลังจากบริษัทฯ ได้รับและตรวจสอบสินค้าแล้ว หากถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นไปตามเงื่อนไข บริษัทฯ จะจัดส่งสินค้าชิ้นใหม่ ภายใน 7 วันทำการ

หมายเหตุ: บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับเปลี่ยนและคืนสินค้า อันเนื่องจากลูกค้า “เปลี่ยนใจ” (Change of mind) ของผู้สั่งซื้อสินค้าทุกกรณี



นโยบายการจัดส่งสินค้า

  1. บริษัทฯจัดส่งสินค้าหลังจากได้ตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
  2. บริษัทฯจัดส่งสินค้า 3-5 วันทำการ เว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ถ้าไม่สามารถจัดส่งในวันนั้นได้ บริษัทฯขอสงวนสิทธ์ในการจัดส่งสินค้าในวันทำการถัดไป หรือตามข้อตกลงกับทางผู้ซื้อ
  3. เมื่อสินค้าถูกจัดส่งเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจ้งยืนยันการจัดส่งสินค้า พร้อมทั้งแจ้งหมายเลขการตรวจสอบการเดินทางของสินค้า(tracking number)
  4. ลูกค้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งสินค้า เมื่อได้ทำการสั่งซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้ว
  5. บริการจัดส่งสินค้าเฉพาะภายในประเทศไทยเท่านั้น สำหรับการจัดส่งสินค้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส) ระยะเวลาในการจัดส่ง จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ และอยู่กับบริษัทผู้ให้บริการขนส่ง โดยทางบริษัทฯ จะจัดส่งให้ตามความเหมาะสม
  6. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใดๆ โดยไม่จำต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า